
โดยประเด็นนี้มีผู้สอบถามเข้า มาพอสมควร ซึ่งในเรื่องนี้มีข้อน่าสังเกตว่า ความรับผิดเช่นนี้จะคงมีต่อห้างสรรพสินค้าเพียงอย่างเดียวหรือไม่
ผู้ประกอบการธุรกิจประเภทอื่นควรคำนึงถึงกรณีความรับผิดอันอาจเกิดขึ้นต่อ กิจการของตนหรือไม่ ?
จากคำพิพากษาศาลฎีกาดังกล่าวได้ข้อเท็จจริงอันสำคัญ ดังนี้
“ห้างสรรพสินค้า” ได้รับผลประโยชน์โดยตรงจากการมีที่จอดรถให้แก่ลูกค้า เพราะมีที่จอดรถย่อมทำให้ลูกค้าสนใจที่จะเข้ามาซื้อสินค้ากับห้าง
“เจ้าของรถ” ไม่ปรากฏข้อเท็จจริงว่าเจ้าของรถได้กระทำด้วยความประมาทจนเป็นเหตุให้รถของตนสูญหาย
ท่านจะเห็นได้ว่า เมื่อห้างได้รับประโยชน์จากการจัดให้มีที่จอดรถให้แก่ลูกค้าเพื่อดึงดูดใจ ลูกค้ามาซื้อสินค้าภายในห้างของตน ดังนี้ ห้างย่อมต้องมีหน้าที่รักษาความปลอดภัยให้แก่รถของ”ลูกค้าของห้าง”ด้วย เมื่อห้างละเลยเรื่องการตรวจสอบให้ดีพอเพื่อป้องกันอันตรายอันเกิดแก่รถยนต์ ของลูกค้าซึ่งนำเข้ามาจอดยังที่จอดรถดังกล่าว จึงเป็นการละเว้นสิ่งที่ห้างต้องกระทำตามหน้าที่ต่อลูกค้าของตน และเมื่อการละเลยดังกล่าวเป็นเหตุให้รถยนต์ของลูกค้าสูญหายจึงเป็นการละเมิด ต่อลูกค้าโดยตรง ห้างจึงต้องรับผิดชดใช้ค่าสินไหมทดแทนให้แก่ลูกค้า
แล้วกรณีเช่นนี้ จะนำไปใช้กับกิจการอื่นๆนอกจากห้างสรรพสินค้าได้หรือไม่ หากเป็นกรณีโรงแรม หอพัก ร้านอาหาร ร้านค้า ฯลฯ จะเป็นเช่นไร ?
เป็นเรื่องที่น่าคิดมากครับ ที่จริงบางกิจการมีกฎหมายเฉพาะอยู่เช่นกัน แต่เมื่อลองมองในมุมของเรื่องละเมิดแล้ว ผมเห็นว่าหากการที่กิจการต่างๆมีที่จอดรถไว้เพื่อประโยชน์ในการ “ตัดสินใจ” ในการเข้าใช้บริการ หรือเข้าซื้อสินค้าของตน แล้ว ก็น่าจะมีหน้าที่และความรับผิดเช่นเดียวกับห้างตามคำพิพากษาดังกล่าวด้วย
ข้อสังเกต.
ถ้านำรถมาจอดในที่จอดรถของห้างแต่ไม่เข้าใช้บริการหรือซื้อสินค้าในห้าง เช่นนี้ ห้างต้องรับผิดหรือไม่
ซึ่งประเด็นนี้ ผมตั้งเป็นข้อสังเกตไว้ว่า ผู้เอารถเข้าไปจอดในที่จอดรถของห้างไม่มีเจตนาเข้าใช้บริการหรือจับจ่ายซื้อ สินค้าในห้างมาแต่ต้น เพียงฉวยโอกาสเข้าไปใช้ความสะดวกจากบริการที่ห้างมีให้แก่ลูกค้าของห้างเท่า นั้น หากมีข้อเท็จจริงนี้เกิดขึ้นประการหนึ่ง หรือ ลูกค้าของห้างประมาทเลินเล่ออย่างชัดเจนไม่ว่าทางหนึ่งทางใดจนเป็นเหตุให้รถ ของตนสูญหาย ผลของคำพิพากษาจะยังคงเป็นเช่นดังคำพิพากษาศาลฎีกาฉบับนี้อยู่หรือไม่
ขอทิ้งท้ายให้คิดเป็นข้อเตือนใจ ว่าอย่างไรแล้วจะนำรถเข้าไปจอดในที่จอดของห้างก็ ต้องอุดหนุนห้างด้วย และต้องรู้จักระมัดระวังทรัพย์สินของตนให้ดี เพราะแม้รถจะหายจากห้างเหมือนกันแต่ข้อเท็จจริงแต่ละคดีที่ต่างกันออกไปอาจเป็นผลให้คำพิพากษาต่างกันออกไปด้วย
....................................................
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 7471/2556
ป.พ.พ. มาตรา 420
จำเลยเป็นห้างสรรพสินค้าขายปลีกและขายส่งสินค้าอุปโภคและบริโภค ย่อมต้องให้ความสำคัญด้านบริการต่าง ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งบริการเกี่ยวกับสถานที่จอดรถซึ่งนับเป็นปัจจัยสำคัญในการ ตัดสินใจของลูกค้าที่จะเข้าไปซื้อสินค้าหรือใช้บริการอื่น ๆ หรือไม่ แม้ พ.ร.บ.ควบคุมอาคาร พ.ศ.2522 มาตรา 8 (9), 34 บัญญัติให้จำเลยซึ่งเป็นเจ้าของอาคารต้องจัดให้มีพื้นที่จอดรถเพื่ออำนวย ความสะดวกแก่การจราจร แต่จำเลยยังต้องคำนึงและมีหน้าที่ดูแลความปลอดภัยของลูกค้าทั้งในชีวิตและ ทรัพย์สิน มิใช่ปล่อยให้ลูกค้าระมัดระวังหรือเสี่ยงภัยเอาเอง การที่จำเลยเคยจัดให้มีการแจกบัตรสำหรับรถของลูกค้าที่เข้ามาในห้างซึ่งเป็น วิธีการที่ค่อนข้างรัดกุม เพราะหากไม่มีบัตรผ่าน กรณีจะนำรถยนต์ออกไปจะต้องถูกตรวจสอบโดยพนักงานของจำเลย แต่ขณะเกิดเหตุกลับยกเลิกวิธีการดังกล่าวเสียโดยใช้กล้องวรจรปิดแทน เป็นเหตุให้คนร้ายสามารถเข้าออกลานจอดรถห้างฯ ของจำเลยและโจรกรรมรถได้โดยง่ายยิ่งขึ้น แม้จำเลยจะปิดประกาศว่าจะไม่รับผิดชอบต่อการสูญหายหรือเสียหายใดๆ รวมทั้งการที่ลูกค้าก็ทราบถึงการยกเลิกการแจกบัตรจอดรถ แต่ยังนำรถเข้ามาจอดก็ตาม ก็เป็นเรื่องข้อกำหนดของจำเลยแต่ฝ่ายเดียวไม่มีผลเป็นการยกเว้นความรับผิดใน การทำละเมิดของจำเลย