วันพุธที่ 5 สิงหาคม พ.ศ. 2558

“ข้อมูลการบริหารสิทธิ” คำๆนี้มีความสำคัญอย่างไร

               ต่อจากนี้ไป ท่านจะได้เห็น ได้ยินคำๆนี้บ่อยยิ่งขึ้น ข้อมูลการบริหารสิทธิ คือ ข้อมูลอะไรก็ได้ที่บ่งชี้ถึง ผู้สร้างสรรค์ งานสร้างสรรค์ นักแสดง การแสดง เจ้าของลิขสิทธิ์ หรือระยะเวลาและเงื่อนไขการใช้งานอันมีลิขสิทธิ์ ตลอดจนตัวเลขหรือรหัสแทนข้อมูลดังกล่าว โดยข้อมูลเช่นว่านี้ได้ติดอยู่หรือปรากฏเกี่ยวข้องกับงานอันมีลิขสิทธิ์หรือสิ่งบันทึกการแสดง ตัวอย่าง เช่น ลายน้ำบนภาพถ่าย ซึ่งเราจะเห็นกันอยู่บ่อยครั้งบนภาพตามที่ต่างๆในโซเชียลมีเดีย หรือจะเป็นสติ๊กเกอร์โฮโลแกรมผลแผ่นซีดี เป็นต้น





                ข้อมูลการบริหารสิทธิ มีไว้เพื่อแสดงถึง อ้างอิงถึง สิทธิต่างๆ เงื่อนไขต่างๆ ในงานอันมีลิขสิทธิ์ตามกฎหมาย เช่น ลายน้ำบนภาพถ่าย เครื่องหมายสิทธิบนแผ่นซีดี ฯลฯ ที่ติดอยู่บนชิ้นงานจึงทำให้รู้ว่าภาพหรือผลงานดังกล่าวเป็นของใคร หรือให้สิทธิ์การใช้งานอย่างไรได้บ้าง ซึ่งเราจะไปนำภาพหรือผลงานดังกล่าวมาใช้โดยพลการ หรือให้แตกต่างไปจากที่เจ้าของผลงานกำหนดไม่ได้ ทั้งนี้ ตามเงื่อนไขเรื่องลิขสิทธิ์ดังที่ผมได้เคยกล่าวในเพจนี้มาก่อนแล้ว






                ที่จริง เรื่องข้อมูลการบริหารสิทธิและการทำละเมิดนั้นไม่ใช่เรื่องใหม่ เพียงแต่ได้มีการแก้ไขเพิ่มเติม พ.ร.บ.ลิขสิทธิ์ พ.ศ. ๒๕๓๗ เสียใหม่ให้มีเนื้อหาที่ชัดเจนขึ้น และเพิ่มเติมให้การกระทำใดๆ ไม่ว่าจะเป็นการลบหรือเปลี่ยนแปลงข้อมูลการบริหารสิทธิ โดยรู้อยู่แล้วว่าการกระทำนั้นอาจจูงใจให้เกิด หรือก่อให้เกิด หรือเป็นการให้ความสะดวก หรือเป็นการปกปิด ในการละเมิดลิขสิทธิ์หรือสิทธิของนักแสดง ให้ถือว่าเป็นการ #ละเมิดข้อมูลการบริหารสิทธ "ทันที" ซึ่งแต่เดิมการกระทำดังกล่าวถือเป็นเพียงขั้นตอนของการกระทำละเมิดลิขสิทธิ์ หรือละเมิดสิทธินักแสดงเท่านั้น แต่ปัจจุบัน ขั้นตอนการกระทำดังกล่าว ถือเป็นความผิดต่อกฎหมายในทางอาญาอีกสถานหนึ่งด้วย และนอกจากการกระทำโดยตรงกับผลงานดังที่กล่าวมาแล้ว ผู้ที่ นำหรือสั่งเข้ามาในราชอาณาจักรเพื่อจำหน่าย หรือ เผยแพร่ต่อสาธารณชน โดยรู้อยู่แล้วว่างานหรือสำเนางานอันมีลิขสิทธิ์นั้นได้มีการลบหรือเปลี่ยนแปลงข้อมูลการบริหารสิทธิ ให้ถือว่าผู้นั้นกระทำการละเมิดข้อมูลการบริหารสิทธิด้วย




                แต่กฎหมายก็มีข้อยกเว้นไว้ว่า การกระทำใด ๆ ดังต่อไปนี้ ไม่ให้ถือว่าเป็นการละเมิดข้อมูลการบริหารสิทธิ




                (๑) การลบหรือเปลี่ยนแปลงข้อมูลการบริหารสิทธิโดยเจ้าพนักงานผู้มีอำนาจตามกฎหมาย เพื่อบังคับการให้เป็นไปตามกฎหมาย การอันจำเป็นในการป้องกันประเทศ การรักษาความมั่นคงแห่งชาติ หรือวัตถุประสงค์อื่นในทำนองเดียวกัน




                (๒) การลบหรือเปลี่ยนแปลงข้อมูลการบริหารสิทธิโดยสถาบันการศึกษา หอจดหมายเหตุ ห้องสมุด หรือองค์กรแพร่เสียงแพร่ภาพสาธารณะ ที่ไม่ได้มีวัตถุประสงค์เพื่อหากำไร




                (๓) การเผยแพร่ต่อสาธารณชนซึ่งงานหรือสำเนางานอันมีลิขสิทธิ์ที่มีการลบหรือเปลี่ยนแปลงข้อมูลการบริหารสิทธิ โดยสถาบันการศึกษา หอจดหมายเหตุ ห้องสมุด หรือองค์กรแพร่เสียงแพร่ภาพสาธารณะ ที่ไม่ได้มีวัตถุประสงค์เพื่อหากำไร




                ลักษณะของข้อมูลการบริหารสิทธิตาม (๒) และงานหรือสำเนางานอันมีลิขสิทธิ์ที่มีการลบหรือเปลี่ยนแปลงข้อมูลการบริหารสิทธิตาม (๓) ให้เป็นไปตามที่กำหนดในกฎกระทรวง




****************************








                ผู้ที่กระทำการละเมิดข้อมูลการบริหารสิทธิ ต้องระวางโทษปรับตั้งแต่ หนึ่งหมื่นบาทถึงหนึ่งแสนบา




                แต่ถ้าเป็นการกระทำเพื่อการค้า
               

               ผู้กระทำต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่สามเดือนถึงสองปี หรือปรับตั้งแต่ห้าหมื่นบาทถึงสี่แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ



****************************




               จากบทกำหนดโทษข้างต้น คงเห็นแล้วนะครับ ว่าการทำละเมิดข้อมูลการบริหารสิทธินั้นเป็นความผิด และมีโทษทางอาญาโดยทันที โดยไม่ต้องคำนึงว่าได้กระทำไปเพื่อการค้าหรือไม่ ยิ่งถ้าทำเพื่อการค้า โทษยิ่งหนักขึ้น ดังนั้นท่านที่ทำธุรกิจต่างๆที่เกี่ยวข้องกับงานอันมีลิขสิทธิ์ของผู้อื่น จึงต้องเร่งทำความเข้าใจให้ถ่องแท้ เพื่อป้องกันปัญหาทางกฎหมายที่อาจตามมา ส่วนนักท่องโซเชียลมีเดียทั้งหลาย ก็ต้องพึงระวังให้มากเช่นกัน จะทำสิ่งใดโดยพลการไม่ได้ โดยเฉพาะผู้ที่ชอบนำภาพ หรือผลงานของผู้อื่นมาใช้ แล้วตัดลายน้ำบนภาพที่นำมาออกไปแล้วนำไปใช้เป็นของตน หรือคัดลอกข้อความ ผลงานใดๆของบุคคลอื่นมาโดยไม่ได้รับอนุญาต และไม่ได้ให้เครดิตในผลงานนั้นแก่เจ้าของผลงาน นอกจากจะละเมิดลิขสิทธิ์งานผู้อื่นตามกฎหมายเดิมที่มีอยู่แล้ว ยังจะต้องรับโทษเพิ่มขึ้นตามกฎหมายใหม่อีกด้วย




                ***ขอเสริมเรื่องการ #แชร์โพสต์จากFacebook  หรือ #Google+ หรือโซเชียลเมีเดียอื่นที่ เน้นการแชร์โพสต์ได้โดยตัวระบบเองนั้น   ส่วนตัวผมมองเป็นสองประเด็น




                ประเด็นแรก คือโพสต์ที่กำหนดค่าไว้เป็นสาธารณะนั้นแชร์ได้ตามที่ Facebook ได้ตั้งระบบไว้ ส่วนโพสต์ที่กำหนดค่าให้แสดงผลไว้เฉพาะกลุ่ม หรือ ส่วนบุคคล การแชร์ออกมานอกวัตถุประสงค์ทำไม่ได้ อีกกรณี คือ การ Copy งานดังกล่าวมาโพสต์โดยพลการ ทำไม่ได้เช่นกัน ซึ่งเรื่องนี้ต้องลงรายละเอียดกันอีกมาก หากท่านใดต้องการทราบรายละเอียดเพิ่มเติมก็สอบถามเข้ามาได้ครับ




                หวังว่าจะเป็นความรู้แก่ท่านผู้อ่านไม่มากก็น้อย ซึ่งหากมีข้อสงสัยสามารถสอบถามเข้ามาได้ และช่วยกันเผยแพร่ให้เป็นความรู้แก่บุคคลทั่วไปครับ