วันพฤหัสบดีที่ 23 มีนาคม พ.ศ. 2560

สัญญาหลักประกันทางธุรกิจ

                จากในครั้งก่อนผมได้นำ พระราชบัญญัติ หลักประกันทางธุรกิจ พ.ศ. ๒๕๕๘ มาโพสต์ไว้ในเพจนี้เพื่อให้ได้ทำความรู้จักและศึกษากัน  ซึ่งกฎหมายเรื่องนี้ถือเป็นเรื่องใหม่ของบ้านเมืองเรา ถึงแม้จะไม่ได้ใหม่ถอดด้ามในต่างประเทศ  แต่ก็เป็นเรื่องยากที่เราจะหยิบยกเอาแนวทางปฏิบัติของในต่างประเทศมายึดถือเป็นแนวทางปฏิบัติของบ้านเราไปเลยนั้นคงไม่เหมาะเสียทีเดียว  ดังนี้ ในการบังคับใช้กฎหมายว่าด้วยหลักประกันทางธุรกิจในบ้านเราต่อไปนั้น บุคคลากรทั้งในภาครัฐและภาคเอกชนจึงต้องช่วยกันศึกษาและออกแนวทางปฏิบัติให้ถูกต้องเหมาะสมสอดคล้องกับสังคมไทยและไม่ด้อยกว่าหลักที่ปฏิบัติกันอยู่ในต่างประเทศด้วย  ทั้งนี้ เพื่อความน่าเชื่อถือและเป็นธรรมต่อทุกภาคส่วนต่อไปนั้นเองครับ  

(picture from unsplash.com) 
  
               ในเบื้องต้นนี้ เรามาทำความรู้จักกับสัญญาหลักประกันทางธุรกิจเสียก่อน ว่าแท้จริงแล้วมีสาระสำคัญอย่างไร 

"สัญญาหลักประกันทางธุรกิจ" 

               ตามความใน มาตรา ๕ ของกฎหมายดังกล่าวบัญญัติว่า   
               สัญญาหลักประกันทางธุรกิจ คือ สัญญาซึ่งคู่สัญญาฝ่ายหนึ่ง เรียกว่า ผู้ให้หลักประกัน ตราทรัพย์สินไว้แก่คู่สัญญาอีกฝ่ายหนึ่ง เรียกว่า ผู้รับหลักประกัน เพื่อเป็นประกันการชำระหนี้ โดยไม่จำเป็นต้องส่งมอบทรัพย์สินนั้นแก่ผู้รับหลักประกัน

               ผู้ให้หลักประกันอาจตราทรัพย์สินของตนไว้เพื่อประกันการชำระหนี้อันบุคคลอื่นต้องชำระก็ได้  
.....................................................

               จากหลักกฎหมายดังกล่าวจะเห็นได้ว่า แท้จริงแล้วสัญญาหลักประกันทางธุรกิจนั้นก็คือสัญญาคำประกันการชำระหนี้นั่นเอง  เพียงแต่ เป็นการ "ตราทรัพย์" ไว้ โดยไม่ต้องส่งมอบตัวทรัพย์สินให้แก่คู่สัญญา  พูดให้เห็นภาพง่ายๆ ก็เหมือนกับการจำนองที่ดิน ซึ่งเพียงแค่จดทะเบียนจำนองกันที่สำนักงานที่ดินเท่านั้นแต่ลูกหนี้หรือผู้ค้ำประกันซึ่งเป็นเจ้าของที่ดินที่จำนองนั้นไม่ต้องส่งมอบการครอบครองทรัพย์ให้แก่เจ้าหนี้แต่อย่างใด  ซึ่งกรณีของการทำสัญญาหลักประกันนี้ ก็ยังแตกต่างจากการจำนำอีกด้วย เนื่องการจำนำนั้นกฎหมายไม่ได้บังคับให้ต้องตราทรัพย์สินไว้แต่ต้องส่งมอบทรัพย์ที่จำนำให้แก่ผู้รับจำนำยึดถือไว้ ผู้จำนำไม่สามารถนำเอาทรัพย์ที่จำนำกลับมาใช้สอยได้จนกว่าจะมีการไถ่ถอนจำนำเสร็จสิ้น  และที่น่าสนใจก็คือทรัพย์สินที่จะนำมาเป็นหลักประกันตากฎหมายใหม่ฉบับนี้ นั้นไม่ได้จำกัดอยู่แต่เพียงทรัพย์ที่มีตราสารหรือมีเอกสารสิทธิเท่านั้น  หากแต่เป็นสังหาริมทรัพย์ หรือสิทธิต่างๆก็สามารถนำมาเป็นหลักประกันได้ด้วย 

ประโยชน์ของสัญญาหลักประกันทางธุรกิจ

               เนื่องจากทรัพย์สินที่จะนำมาเป็นหลักประกันได้นั้นมีกำหนดไว้ใน มาตรา ๘ บัญญัติว่า

               หลักประกันได้แก่ทรัพย์สิน ดังต่อไปนี้

(๑) กิจการ

(๒) สิทธิเรียกร้อง

(๓) สังหาริมทรัพย์ที่ผู้ให้หลักประกันใช้ในการประกอบธุรกิจ เช่น เครื่องจักร สินค้าคงคลัง หรือวัตถุดิบที่ใช้ในการผลิตสินค้า

(๔) อสังหาริมทรัพย์ในกรณีที่ผู้ให้หลักประกันประกอบธุรกิจอสังหาริมทรัพย์โดยตรง

(๕) ทรัพย์สินทางปัญญา

(๖) ทรัพย์สินอื่นตามที่กำหนดในกฎกระทรวง
.................................................................

               จึงเห็นได้ว่า ทรัพย์สินที่จะนำมาเป็นหลักประกันทางธุรกิจได้นั้นไม่จำกัดอยู่เพียงที่ดินอันเป็นอสังหาริมทรัพย์แต่เพียงอย่างเดียวอีกต่อไป  หากแต่ตามกฎหมายได้เปิดกว้างรับรองการที่ผู้ให้หลักประกันสามารถนำทรัพย์สินต่างๆของกิจการตน หรืออันเกี่ยวเนื่องมาจากการประกอบกิจการของตนไม่ว่าจะเป็น  สิทธิเรียกร้องต่างๆ  เช่น  สัญญาเช่า ใบเรียกเก็บเงิน ฯ     หรือจะเป็นสังหาริมทรัพย์ที่ใช้ในการประกอบกิจการ   เช่น  วัตถุดิบ  เครื่องจักรในการผลิต      รวมไปถึงอสังหาริมทรัพย์จากกิจการที่ประกอบธุรกิจอสังหาริมทรัพย์โดยตรง  ตลอดจนทรัพย์สินทางปัญญาที่ผู้ประกอบกิจการเป็นเจ้าของอยู่  เช่น  บทประพันธ์  แบบผลิตภันฑ์ในการผลิตต่างๆ ฯ  หรือแม้แต่ตัวกิจการ  พูดง่ายๆ ยกกิจการทั้งหมดมาเป็นหลักประกันก็ได้      และในทางปฏิบัติจริงๆแล้วทรัพย์สินเหล่านี้ ผู้ประกอบกิจการต่างๆมีความคิดจะขอนำมาเป็นหลักประกันเพื่อขอสินเชื่อกับทางสถาบันการเงินอยู่เช่นกัน แต่ติดอยู่ที่ทางสถาบันการเงินยังเห็นว่าการจะบังคับชำระหนี้กับทรัพย์สินเหล่านี้นั้นยังไม่มีกฎหมายรองรับ  จึงยังไม่ยอมรับหลักประกันดังกล่าวในการขอสินเชื้อ ซึ่งต่อไปนี้มีกฎหมายขึ้นมารองรับแล้วการเข้าถึงทุนของผู้ประกอบการก็จะเป็นเรื่องที่ง่ายขึ้น 

               ที่กล่าวมานี้เป็นเพียงรูปแบบหนึ่งของสัญญาหลักประกันทางธุรกิจที่จะต้องนำมาจดทะเบียนตามกฎหมายเท่านั้น ซึ่งผมขอยกเป็นเพียงตัวอย่างเบื้องต้นพอเข้าใจไว้เท่านี้ก่อนครับ  และในครั้งต่อๆไปผมจะได้มาพูดคุยถึงกฎหมายฉบับนี้ในส่วนอื่นๆอีก เพื่อให้ทุกท่านได้มีความรู้และเข้าใจถึงการปฏิบัติตามกฎหมายฉบับนี้ได้อย่างเข้าใจและถูกต้องครับ

ศึกษากฎหมายฉบับนี้เพิ่มเติมได้ตามลิ้งค์นี้ครับ
https://www.facebook.com/nitilaw.legaladvisors/posts/1247100635322149


หวังว่าจะเป็นประโยชน์แก่ท่านผู้อ่านไม่มากก็น้อย ซึ่งหากมีข้อสงสัยสามารถสอบถามเข้ามาได้ และช่วยกันเผยแพร่ให้เป็นความรู้แก่บุคคลทั่วไปครับ

ที่ปรึกษากฎหมาย นิติลอว์

#ปรึกษากฎหมาย #สัญญาหลักประกันทางธุรกิจ

ขอบคุณภาพประกอบ  : Thank you ,  picture from unsplash.com