วันอังคารที่ 19 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556

ประมาทหรือเจตนา ไม่น่าเสี่ยง

                การขับขี่รถยนต์สมัยนี้ต้องระวังให้มากครับ วันนี้ผมบังเอิญได้ดูคลิปวัยรุ่นเต้นโยกไปมาบนรถยนต์โดยยื่นตัวออกนอกรถใน ลักษณะแขนข้างเดียวจับราวเหล็กและมีขาข้างเดียวยื่นอยู่บนโครงเหล็กท้ายรถ ส่วนที่เหลือของร่างกายโยกย้ายแบบสุดเหวี่ยงอยู่ในอากาศโดยไม่มีเครื่องมือ ป้องกันการพลัดหล่นจากรถ ซึ่งขณะนั้นรถแล่นอยู่ด้วยความเร็ว(สูง) แล้วรถคันหลังได้ขับตามเข้าไปในระยะใกล้เพื่อบันทึกเหตุการณ์ที่ผ่านมาพบ เห็นนี้ไว้ แบบขับตามหลังกันไป ผมเห็นแล้วนึกเอาใจช่วยว่าอย่าให้เด็กเหล่านั้นตกลงมาเลย อนาคตของชาติทั้งนั้น และผู้ถ่ายคลิปนี้ไว้ใบหน้าละม้ายบุคคลที่มีชื่อเสียงซึ่งผมให้ความนิยม เดชะบุญไม่เกิดเรื่องร้ายขึ้นเป็นอันโล่งใจครับ

                ทีนี้ลอง “สมมุติ” ว่าเด็กเกิดพลัดตกลงมาแล้วรถที่ขับตามไปนั้นแล่นทับเด็กเสียชีวิต ผู้ขับรถจะมีความผิดฐานใด โดยทั่วไปแล้วเมื่อเกิดเหตุรถชนคนเสียชีวิตผู้ขับขี่มักจะถูกตั้งข้อหาว่า ขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย แต่กรณีนี้ อาจไม่โชคดีเช่นนั้น เพราะ ผู้พบเห็นย่อมคาดหมายได้ว่าการที่เด็กโหนตัวออกไปเต้นเหวี่ยงตัวไปมาอยู่ อย่างนั้นโดยไม่มีเครื่องมือป้องกันการร่วงหล่น บนรถที่แล่นด้วยความเร็วสูงนั้นโดยธรรมดาย่อมมีโอกาสจะพลาดร่วงหล่นจากรถได้ และรถที่ตนเองขับตามไปในระยะกระชั้นชิดจะแล่นทับเด็กที่ตกลงมาเสียชีวิต ซึ่งเป็นเรื่องที่วิญญูชนอาจคาดหมายได้อยู่แล้ว ตรงนี้หละสำคัญ เมื่อคาดหมายได้ ก็จะไม่ใช่เรื่องประมาทอีกต่อไปแล้วครับ ภาษากฎหมายใช้คำว่า เล็งเห็นผล ซึ่งเป็นเจตนาประเภทหนึ่งตามกฎหมายอาญา ฉะนั้น หากท่านพบเจอเหตุการณ์เช่นตัวอย่าง แนะนำให้หลีกให้ห่างครับ จะได้ไม่ต้องเสี่ยงกับคำว่า ประมาท หรือ เจตนา

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น