นับวันเทคโนโลยียิ่งก้าวหน้า การใช้เทคโนโลยีในทางที่ผิด
ก็มีปรากฏให้เห็นมากขึ้นทุกวัน แอพพลิเคชั่นต่างๆก็ออกแบบมามากมาย
ดาวน์โหลดและใช้งานได้ง่ายจนเด็กเล็กๆก็สามารถใช้งานได้
และคนเราบ่อยครั้งที่เมื่อยามดีก็ดีกันสุดๆ พอผิดใจกันอะไรๆก็เกิดขึ้นได้
มีผู้สอบถามมาว่าถูกโพสต์ภาพที่มีการตัดต่อลงในระบบออนไลน์เป็นเหตุให้ได้รับความเสียหาย จะทำยังไงได้บ้าง
แน่นอนครับเมื่อมีการทำให้เกิดความเสียแก่เรา
ในทางแพ่งย่อมเป็นละเมิดแม้ไม่มีเจตนาก็ตาม
แต่ก็ยังต้องรับผิดชอบในสิ่งที่ได้ทำไปซึ่งเป็นการละเมิดอยู่นั่นเอง
การใช้สิทธิ์เรียกร้องค่าเสียหายทางแพ่งก็คำนึงถึงความเสียหายที่ผู้เสียหาย
ได้รับ
หากเป็นนักแสดงหรือบุคคลซึ่งมีชื่อเสียงแล้วค่าเสียหายย่อมเรียกได้สูงเป็น
เงาตามตัว(สมเหตุสมผล)
แต่การกระทำดังกล่าวจะไม่เป็นเพียงการละเมิดเท่านั้น
หากการกระทำนั้นเป็นการโพสต์ภาพที่ตัดต่อเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ที่ประชาชน
ทั่วไปอาจเข้าถึงได้ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่ปรากฏเป็นภาพของผู้อื่น
และภาพนั้นเป็นภาพที่เกิดจากการสร้างขึ้น ตัดต่อ เติม
หรือดัดแปลงด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์หรือวิธีการอื่นใด ทั้งนี้
โดยประการที่น่าจะทำให้ผู้อื่นนั้นเสียชื่อเสียง ถูกดูหมิ่น ถูกเกลียดชัง
หรือได้รับความอับอาย ก็จะเป็นความผิดที่มีโทษทางอาญา
ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสามปี หรือปรับไม่เกินหกหมื่นบาท
หรือทั้งจำทั้งปรับ แต่การกระทำดังกล่าวจะไม่มีความผิด
หากเป็นการกระทำโดยสุจริตและความผิดนี้เป็นความผิดอันยอมความได้
(พรบ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. ๒๕๕๐ มาตรา ๑๖)
ผู้เสียหายจึงสามรถแจ้งความดำเนินคดีอาญาได้ภายในอายุความ
การตัดต่อภาพไม่จำเป็นจะต้องตัดต่อเฉพาะแต่ใบหน้าหรือส่วนของร่างกายอย่าง
ที่เห็นกันบ่อยๆถึงจะเป็นความผิดนะครับ ไม่ว่าจะตัดต่อสถานที่
ตัดต่อบุคคลรอบข้าง ตัดต่อข้อความที่ปรากฎในภาพ สรุปคือ
การตัดต่อแล้วนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ที่ประชาชน "อาจ" เข้าถึงได้ และ
"น่าจะ" ทำให้ผู้อื่นนั้นเสียชื่อเสียง ถูกดูหมิ่น ถูกเกลียดชัง
หรือได้รับความอับอาย ก็เป็นความผิดแล้วครับ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น