วันนี้มาพูดกันถึงประเด็นใกล้ตัวเราอีกเรื่องหนึ่งครับ
ไม่ทราบว่าท่านใดเคยร่วมกันทำการค้าบ้างครับ ไม่ว่ากับเพื่อน กับคนรัก
ขายของเล็กๆน้อยๆ
ตลอดจนการเข้าหุ้นกันทำกิจการอย่างจริงจังเป็นหลักเป็นฐานแต่ไม่ได้ดำเนินการจดทะเบียนเป็นนิติบุคคล อย่างบริษัท หรือห้างหุ้นส่วนจำกัด ฯ
การที่ได้เข้าหุ้นกันทำกิจการโดยมีจุดประสงค์เพื่อแสวงหากำไรมาแบ่งกัน
ไม่ว่าจะแบ่งกันแบบตามส่วนเท่าๆกันหรือตามแต่ที่จะได้ตกลงกันไว้ เช่นนี้
ในทางกฎหมายถือว่าท่านได้ก่อตั้งห้างหุ้นส่วนขึ้นมาแล้ว
โดยไม่จำเป็นที่จะต้องจดทะเบียนหรือมีสำนักงานหน้าร้านแต่อย่างใด
ซึ่งมีคำเรียกว่า “ห้างหุ้นส่วนสามัญ” ซึ่งมีสถานะทางกฎหมาย
เมื่อเป็นการก่อตั้งห้างหุ้นส่วนสามัญขึ้นมาแล้ว กฎหมายได้กำหนดหน้าที่
ความรับผิด ทั้งระหว่างหุ้นส่วนด้วยกันเอง
และที่ต้องมีต่อบุคคลภายนอกเอาไว้แล้วในประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์
ซึ่งในวันนี้ผมขอหยิบยกเอาหลักในเรื่องความรับผิดต่อเจ้าหนี้ของห้างหุ่น
ส่วนสามัญมาเล่าสู่กันฟังพอเป็นสังเขป
เมื่อทำการค้าก็ย่อมเป็นธรรมดาที่จะต้องมีการลงทุนและบ่อยครั้งจะต้องมีการ
กู้ยืมหรือเปิดเครดิตสินค้า ไม่ว่าจะกู้เงินสดมาใช้ หรือ
ซื้อเชื่อสินค้ามาขายก่อน
หากของขายง่ายหมดเร็วได้กำไรก็ไม่น่าจะมีปัญหาแบ่งกำไรกันไปไม่ว่าจะแบ่งกัน
แบบตามส่วนเท่าๆกันหรือตามแต่ที่จะได้ตกลงกันไว้อย่างมีความสุข
แต่หากสินค้าขายไม่ออก ขาดทุน ปัญหาก็เกิด ทีนี้
จะแบ่งกันชำระหนี้เหมือนกับการแบ่งกำไรได้หรือไม่ คำตอบคือ
ถ้าจ่ายหนี้เต็มจำนวนเจ้าหนี้ก็ไม่สนหลอกครับว่าเงินจะมาจากใครเท่าไหร่บ้าง
แต่ถ้าไม่ยอมจ่ายจนต้องถูกฟ้องบังคับให้ชำระหนี้
กฎหมายกำหนดให้ผู้เป็นหุ้นส่วนทุกคนต้องร่วมกันรับผิดชอบให้หนี้สินของห้าง
หุ้นส่วนอย่างไม่จำกัดจำนวน
พูดง่ายๆเจ้าหนี้ไล่เบี้ยได้กับทุกคนโดยไม่สนจำนวนหุ้นของหุ้นส่วนแต่ละคน
ว่าใครจะมากใครจะน้อย ไม่เหมือนกับตอนแบ่งกำไรกันเลย
แต่ก็เป็นความรับผิดของหุ้นส่วนตามที่กฎหมายได้กำหนดไว้ครับ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น